วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปืนเล็กยาว

ปืนเล็กยาว

ปืนเล็กยาวหรือปืนไรเฟิลเป็นอาวุธปืนที่ถูกออกแบบมาให้ยิงโดยการประทับไหล่ ภายในลำกล้องมีการเซาะให้เป็นสันและร่องเกลียวที่ผนังลำกล้อง ซึ่งสันเกลียวเรียกว่า "Land" ส่วนร่องเกลียวเรียกว่า "Groove" ซึ่งสันเกลียวนี้จะสัมผัสกับหัวกระสุนและรีดหัวกระสุนไปตามสันเกลียวและหมุนควงรอบตัวเอง เพื่อรักษาการเคลื่อนที่ของหัวกระสุนมิให้ตีลังกาในอากาศและเพื่อเพิ่มความแม่นยำตลอดจนอานุภาพสังหาร เทียบได้กับการขว้างลูกบอลในกีฬาอเมริกันฟุตบอลหรือกีฬารักบี้ คำว่า"ไรเฟิล (Rifle)" นั้นมาจากคำว่า Rifling ซึ่งแปลว่าการทำให้เป็นร่อง นิยมใช้ในราชการสงคราม การล่าสัตว์ หรือกีฬายิงปืน
ในทางทหารแล้วคำว่า "ปืน (Gun)" ไม่ได้หมายถึงปืนเล็กยาว ในทางทหารคำว่า"ปืน (Gun)"หมายถึง ปืนใหญ่ นอกจากนี้ ในงานนวนิยายหลายเรื่อง คำว่าปืนเล็กยาวหรือปืนไรเฟิลจะหมายถึงอาวุธใดๆ ก็ตามที่มีพานท้ายและต้องประทับบ่าก่อนยิง ถึงแม้ว่าอาวุธดังกล่าวจะไม่ได้ทำร่องในลำกล้องหรือไม่ได้ยิงกระสุนก็ตาม

 คำอธิบาย

ร่องที่เป็นเกลียวในลำกล้องของปืนเล็กยาว
เดิมทีแล้ว ปืนเล็กยาวถูกใช้โดยนักแม่นปืน ขณะที่ทหารราบจะใช้อาวุธที่ทรงอานุภาพมากกว่า อย่างปืนคาบศิลา ซึ่งจะยิงกระสุนกลมๆ ซึ่งอาจมีขนาดถึง 19 ม.ม. (0.75 นิ้ว) เบนจามิน โรบินส์ เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้รู้ว่ากระสุนจะพุ่งได้เร็วกว่ากระสุนแบบกลม งานของโรบินส์และคนอื่นๆ นั้น กว่าจะได้การยอมรับก็ต้องรอจนถึงทศวรรษที่ 18
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 19 อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงที่เหมาะสมทำให้ปืนคาบศิลาถูกแทนที่ด้วยปืนเล็กยาว—มักจะยิงทีละนัด บรรจุกระสุนทางด้านท้าย—ถูกออกแบบมาเพื่อการเล็ง , จะถูกยิงอย่างรอบคอบโดยทหารบางคน จากนั้น จนถึงปัจจุบัน ปืนเล็กยาวก็เริ่มมีพานท้าย เพื่อประทับยิง ปืนเล็กยาวของกองทัพในช่วงแรก อย่าง ปืนไรเฟิลบาร์คเกอร์ มันมีขนาดสั้นกว่าปืนคาบศิลา และมักใช้โดยพลแม่นปืน จนกระทั่งทศวรรษที่ 20 ปืนเล็กยาวเริ่มมีความยาวมาก—ปืน 1890 มาตินี่ เฮนรี่ มีความยาวเกือบ 2 เมตร และติดดาบปลายปืน ความต้องการอาวุธที่กระชับขึ้นของทหารม้าทำให้เกิดปืนเล็กสั้น (Carbine) ขึ้นมา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น